เอกชนขานรับนโยบายรัฐ ร่วมวง พัฒนาการศึกษาไทยด้วย “ไอที”

          สังคมแห่งการศึกษา ของไทยในปัจจุบัน มีแนวโน้มสู่การเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งความรู้จากบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ความเข้าใจและทักษะทางการเรียนที่เพิ่มขึ้นของผู้เรียน รวมถึงตัวช่วยที่สำคัญนั่นก็คือ  “เทคโนโลยี” ที่เข้ามาผลักดันและมีบทบาทในกระบวนการทางการศึกษา จนอาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง
        ในขณะเดียวกัน ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาสนับสนุนนโยบายด้านการศึกษาอย่างแข็งขัน เพื่อที่ทุกฝ่ายต่างก็ต้องการเห็นการพัฒนาและโอกาสในการเข้าถึงความรู้และการศึกษา โดยจะเห็นโครงการประกวดหรือแข่งขันต่างๆ เป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นเวทีให้นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนไทยได้แสดงออกทางความคิดอย่างสร้างสรรค์ ผ่านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและล้ำสมัย จนสามารถสร้างประสิทธิภาพให้แก่วงการการศึกษาของไทยได้อย่างชัดเจน

           นายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า “คุณภาพการเรียนการสอนหรือคุณภาพของเด็กจะพัฒนาขึ้นได้ เราควรนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริม หากยังใช้กระบวนการเรียนรู้แบบเดิมๆ เช่น ให้ครูเขียนบนกระดาน และให้เด็กเปิดหนังสือตาม เชื่อว่าคุณภาพทางการศึกษาก็จะยังไม่ถูกพัฒนา ดังนั้น เครื่องมือที่สามารถสร้างประสิทธิภาพให้กระบวนการศึกษาได้สูงสุดก็คือ ไอซีที ขณะนี้ สำนักงานฯ ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชน เพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน โดยสำนักงานฯ มีแผนที่จะขยายเทคโนโลยีที่เรียกว่า มัลติพอยท์เม้าส์ ไปยังโรงเรียนประถมขนาดเล็กอีก 100-300 โรงเรียน จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 10 โรงเรียน”
         นางสาวสายใจ บุณยโชติมา ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า "ขณะนี้ มีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้าสู่ห้องเรียน เพื่อขยายโอกาสและสร้างการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี ที่ยังขาดผู้สนับสนุนจำนวนมาก โครงการต่างๆ ที่ไมโครซอฟท์จัด เช่น โครงการพาร์ทเนอร์อีเลิร์นนิ่ง หรืออิมเมจจิ้งคลับ รวมทั้งอีกหลายๆ โครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ อาทิ อินเทอร์เน็ตเซฟตี้ หรือออนไลน์เลิร์นนิ่ง เป็นการพัฒนาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการนั้น ไมโครซอฟท์จะจัดกิจกรรมนั้นอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความพร้อมและความถูกต้องของประเทศไทย"

        จากแนวทางและทัศนคติของตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่เป็นผู้ดำเนินงาน และผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีต่างๆ คงจะพอเห็นแนวทาง แนวโน้นของการศึกษาไทยในอนาคตได้มากยิ่งขึ้น
        ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ยังถูกผู้ไม่หวังดีบางกลุ่มที่นำไปใช้ในทิศทางที่ผิด ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นและชาติบ้านเมือง แต่ยังมีกลุ่มคนที่หวังดีต่อบ้านเมืองอีกจำนวนไม่น้อย กำลังช่วยกันผลักดัน เพื่อพัฒนากระบวนการทางความรู้ และยังพยายามช่วยเปิดประตูแห่งสติปัญญา ให้อนาคตของชาติไทย ได้แสดงพลังและศักยภาพทางความคิด ให้ประจักษ์แก่สายตาของคนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างไม่อายใคร ว่าเด็กไทยมีดี...

ที่มาของข่าว http://www.mict.go.th/ewt_news.php?nid=1662&filename=index
ที่มาของรูปภาพ   http://www.mict.go.th/ewt_news.php?nid=1662&filename=index